Search


มาเรียนรู้วิธีสร้างบุญบารมีกันเถอะ ๑
  • Share this:


มาเรียนรู้วิธีสร้างบุญบารมีกันเถอะ ๑

พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนวิธีการสร้างบุญบารมีมีอยู่ ๓ วิธีคือ ทาน ศีล ภาวนา

การทำทาน คือ การสละทรัพย์สิ่งของสมบัติของตนที่มีอยู่ให้แก่ผู้อื่น โดยมุ่งหวังจะจุนเจือให้ผู้อื่นได้รับผลประโยชน์และความสุขด้วยเมตตาจิตของตน ส่วนการทำทานจะมากน้อยนั้น สุดแต่องค์ประกอบ ๓ อย่างคือ

วัตถุทานนั้นต้องบริสุทธิ์ คือ จะต้องเป็นทรัำพย์ที่ตนหามาได้อย่างบริสุทธิ์ มิได้ไปโกงหรือได้รับมาโดยทุจริต เช่นได้จากการเบียดเบียนชีวิตเลือดเนื้อของผู้อื่น เช่นฆ่าสัตว์เพื่อนำมาทำบุญหรือรับรู้ รู้เห็น สนับสนุน ให้เกิดการฆ่า จะทำให้ได้บุญน้อยหรือไม่ได้เลย

การทำบุญโดยทรัพย์ที่มิได้มาโดยชอบ ทางธรรมเรียกทรัพย์นั้นว่า บริโภคโดยความเป็นหนี้ เช่นพ่อค้าแม่ขายที่โกงกำไรมากเกินไปผลจากความโลภถึงได้เงินไปแล้วนำไปทำบุญก็ไม่มีวันที่จะได้บุญ

เจตนาในการให้ทานต้องมีจิตที่บริสุทธิ์ ทั้งก่อนที่จะให้ทาน ขณะให้ทานและหลังให้ทาน การทำทานเพราะอยากเอาหน้า เป็นการทำทานที่เกิดไม่บริสุทธิ์ รวมถึงการทำทานเพราะเค้าบอกว่าดีแต่มิได้รู้สึกศัทธาหรือมีจิตน้อมไป การทำทานที่หวังผลว่า เมื่อทำแล้วตนเองจะดีขึ้นจะได้รับผลประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งทั้งจิตใจและกาย การทำทานที่ไม่เบียดเบียนตน เช่นมีน้อยให้น้อย

ผลของการทำทานจะทำให้เมื่อเราตายเราจะเกิดเป็นเทวดาอยู่ในวิมารพร้อมสมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ แต่ถ้าเกิดเป็นมนุษย์หากในการให้ทานก่อนการให้ทานเรามีจิตบริสุทธิ์ เราก็จะเกิดมาในตระกูลที่รำ่่รวยทั้งแต่แรกเกิด แต่ถ้าเรามีจิตน้อมไปและบริสุทธิ์ในขณะที่เราทำทานแต่ไม่มีก่อนทำทานก็จะทำให้เราสร้างตัวได้ในช่วงอายุก่อน กลางคน แต่หากก่อนทำทานและขณะทำทานไม่มีจิตน้อมไปแต่เมื่อทำทานเสร็จแล้วกับเกิดปิติสุข ก็จะสามารถมีชีวิตบันปลายไม่ลำบาก

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า

ทำทานแก่สัตว์เดรัจฉาน ๑๐๐ ครั้งยังไม่เท่ากับทำทานแก่มนุษย์ครั้งเดียว
ทำทานกับมนุษย์ ๑๐๐ ครั้งไม่เท่ากับทำทานกับผู้มีศีล ๕ บริสุทธิ์ครั้งเดียว
ถวายทานกับผู้มีศีล ๕ บริสุทธิ์ครั้งเดียวไม่เท่ากับถวายทานกับผู้มีศีล ๑๐ ครั้งเดียว(เณร)
ถวายทานกับผู้มีศีล๑๐ /๑๐๐ครั้งไม่เท่ากับถวายกับสมมุติสงฆ์ครั้งเดียว (ในสมัยพุทธกาลพระพุทธองค์ทรงเรียกสงฆ์ต่อเมื่อเป็นระดับ โสดาขึ้นไปเท่านั้น แต่สมมุติสงฆ์ที่ทรงตรัสต้องเป็นคนที่อยู่ในสิขาบทสมบูรณ์ ๒๒๗ ข้อ)
การถวายทานกับสมมุติสงห์๑๐๐ ครั้งไม่เท่ากับ พระโสดาครั้งเดียว
พระโสดา๑๐๐ครั้งก็ไม่เท่าสกิทาคามีครั้งเดียว
สกิทาคา๑๐๐ ครั้งก็ไม่เท่าอนาคามีครั้งเดียว
อนาคามี๑๐๐ ครั้งก็ไม่เท่ากับปัเจกพุทธเจ้าครั้งเดียว
ปัจเจกพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้งก็ไม่เท่าพระพุทธเจ้าครั้งเดียว
พระพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้งก็ไม่เท่ากับการถวายวิหารทาน วิหารทานคือการสร้างสิ่งต่างๆเพื่อเป็นประโยชน์แก่ชนส่วนรวม
การถวายวิหารธรรม๑๐๐ ครั้งก็ยังไม่เท่ากับการให้ธรรมทานครั้งเดียว(ธรรมทานคือการใเทศนา หรือสอนธรรมะแก่ปวงชน
การถวานธรรมทาน ๑๐๐ ครั้งยังไม่เท่ากับการให้อภัยทานครั้งเดียว

พรุ่งนี้พี่อ๋อจะมาต่อว่าแล้วเมื่อเรารักษาศีลแล้ว ผลของบุญบารมีจากการรักษาศีลจะยังผลให้เราอย่างไรบ้างมารออ่านกันนะ

Post by: Aur on March 11, 2010, 08:12:27 PM
http://aurseeyou.net/forum/index.php?topic=13022.0


Tags:

About author
not provided
เพจนี้ เป็นเพจที่บอกเล่าเรื่องราวความรู้ ความเป็นไป ประสบการณ์ และความคิดของอ๋อ
View all posts